“ข้าวเกรียบว่าว” แผ่นข้าวสีขาวนวล ย่างให้เหลืองพองกรอบ ขนมขบเคี้ยวแสนอร่อยที่อยู่คู่ชาวไทยมานาน คนเหนือเรียก “ข้าวครวบ” “เข้าตวบ” หรือ “เข้าพอง” พี่น้องชาวอีสานเรียก “ข้าวโป่ง” หรือ “ข้าวเขียบ” ขณะที่คนใต้รู้จักกันในนาม “ข้าวเกรียบเหนียว” ซึ่งเป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักเป็นข้าวเหนียว
เกี่ยวกับเรา
▼
Saturday, May 19, 2018
ข้าวเกรียบว่าว - ข้าวโป่ง
“ข้าวเกรียบว่าว” แผ่นข้าวสีขาวนวล ย่างให้เหลืองพองกรอบ ขนมขบเคี้ยวแสนอร่อยที่อยู่คู่ชาวไทยมานาน คนเหนือเรียก “ข้าวครวบ” “เข้าตวบ” หรือ “เข้าพอง” พี่น้องชาวอีสานเรียก “ข้าวโป่ง” หรือ “ข้าวเขียบ” ขณะที่คนใต้รู้จักกันในนาม “ข้าวเกรียบเหนียว” ซึ่งเป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักเป็นข้าวเหนียว
ขนมไข่แมงดาฉาบ (ไข่แมงดาทะเลเชื่อม)
"ไข่แมงดาฉาบ" เพชรบุรีเรียก "ไข่แมงดาเชื่อม" บางจังหวัดก็เรียก "ขนมหน้ากะฉีกไข่แมงดา"
สันนิษฐานว่าเป็นขนมทานเล่นหรือของว่างทานเล่นในวังสมัยโบราณช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ไว้สำหรับต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือนตามพระตำหนักมีรสชาติหวานนำ เค็มตาม มีความมันและหอมจากมะพร้าวและไข่แมงดาทะเล นับว่าเป็นของทานเล่นที่หาทานได้ยากยิ่งในปัจจุบัน
ว่ากันว่าเป็นขนมพื้นบ้านเมืองเพชรต้นตำรับที่สืบทอดกันมานาน ชาวบ้านได้ทำถวายในรัชกาลที่ 5 ครั้นเสด็จแปรพระราชฐาน ต้องใช้เวลากวนนานประมาณ 2 ชม. และต้องใช้ที่ขูดมะพร้าวแบบโบราณ ใช้เครื่องปั่นขูดเอาไม่ได้
ขนมโบร่ำโบราณ อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ บ้างก็ไว้ทานเล่น บ้างก็นำไปทานกับข้าวเหนียวดำแบบหน้ากะฉีก บ้างก็นำไปทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานกับข้าวแช่เย็นๆ ก็อร่อยไม่แพ้ปลาผัดหวานกันเลยเชียว
ในวรรณกรรมสี่แผ่นดิน ก็มีระบุด้วยว่า ขนมนี้แม่พลอยได้ชิมครั้งแรกตอนเข้าถวายตัวกับเสด็จ
บางข้อมูลก็ว่าขนมนี้กำเนิดที่ชุมชนอ่างศิลา และชาวบ้านทำไปถวาย เจ้าดารารัศมี ตอนท่านประชวร และมาพัก ท่านก็ทรงโปรด
สูตรโบราณจะใช้มะพร้าวทึนทึก เคี่ยวน้ำตาลจนเหนียว แต่ทางร้านได้เพิ่มสูตรมะพร้าวอ่อนไปอีกหนึ่งสูตร สำหรับท่านที่ชอบมะพร้าวอ่อนก็จะอร่อยไปอีกแบบนึง
หมายเหตุ:ไข่แมงดาทะเลจะมีช่วง ก.พ.- ก.ย. ของทุกปี ราคาขนมจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 700-850.- สามารถเก็บนอกตู้เย็นได้นานมาก
Cr. https://m.facebook.com/photo.php?fbid=924114534366302&id=100003032931407&set=gm.603125566514187
สันนิษฐานว่าเป็นขนมทานเล่นหรือของว่างทานเล่นในวังสมัยโบราณช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ไว้สำหรับต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือนตามพระตำหนักมีรสชาติหวานนำ เค็มตาม มีความมันและหอมจากมะพร้าวและไข่แมงดาทะเล นับว่าเป็นของทานเล่นที่หาทานได้ยากยิ่งในปัจจุบัน
ว่ากันว่าเป็นขนมพื้นบ้านเมืองเพชรต้นตำรับที่สืบทอดกันมานาน ชาวบ้านได้ทำถวายในรัชกาลที่ 5 ครั้นเสด็จแปรพระราชฐาน ต้องใช้เวลากวนนานประมาณ 2 ชม. และต้องใช้ที่ขูดมะพร้าวแบบโบราณ ใช้เครื่องปั่นขูดเอาไม่ได้
ขนมโบร่ำโบราณ อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ บ้างก็ไว้ทานเล่น บ้างก็นำไปทานกับข้าวเหนียวดำแบบหน้ากะฉีก บ้างก็นำไปทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานกับข้าวแช่เย็นๆ ก็อร่อยไม่แพ้ปลาผัดหวานกันเลยเชียว
ในวรรณกรรมสี่แผ่นดิน ก็มีระบุด้วยว่า ขนมนี้แม่พลอยได้ชิมครั้งแรกตอนเข้าถวายตัวกับเสด็จ
บางข้อมูลก็ว่าขนมนี้กำเนิดที่ชุมชนอ่างศิลา และชาวบ้านทำไปถวาย เจ้าดารารัศมี ตอนท่านประชวร และมาพัก ท่านก็ทรงโปรด
สูตรโบราณจะใช้มะพร้าวทึนทึก เคี่ยวน้ำตาลจนเหนียว แต่ทางร้านได้เพิ่มสูตรมะพร้าวอ่อนไปอีกหนึ่งสูตร สำหรับท่านที่ชอบมะพร้าวอ่อนก็จะอร่อยไปอีกแบบนึง
หมายเหตุ:ไข่แมงดาทะเลจะมีช่วง ก.พ.- ก.ย. ของทุกปี ราคาขนมจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 700-850.- สามารถเก็บนอกตู้เย็นได้นานมาก
Cr. https://m.facebook.com/photo.php?fbid=924114534366302&id=100003032931407&set=gm.603125566514187